ทำไมฟันผุซ้ำซาก แม้แปรงดีแล้ว? ต้นเหตุใกล้ตัวกว่าที่คิด

ทำไมฟันผุซ้ำซาก แม้แปรงดีแล้ว? ต้นเหตุใกล้ตัวกว่าที่คิด

แปรงฟันทุกวัน ทำไมฟันยังผุซ้ำซาก? ” คำตอบคือปัญหาฟันผุไม่ได้เกิดจากการแปรงฟันไม่สะอาดอย่างเดียว แต่เกิดจาก “กระบวนการทำลายฟันเล็กๆ” ที่เกิดขึ้นทั้งวัน จากพฤติกรรมที่เราไม่รู้ตัว ทำให้เคลือบฟันอ่อนแอลงเรื่อยๆ แม้เราจะดูแลดีแล้วก็ตาม

ปัญหานี้เกิดขึ้นกับหลายคน และเป็นเหตุผลที่แนวคิด Proactive Oral Health การดูแลช่องปากเชิงรุกล่วงหน้า จึงสำคัญมากในยุคนี้

8 สาเหตุที่แปรงฟันทุกวัน แต่ยังฟันผุ “ซ้ำซาก”

1) แปรงฟันไม่ถูกวิธี การแปรงผิดมุม ไม่ปัดตามแนวเหงือก หรือใช้แรงกดมากเกินไป ทำให้คราบจุลชีพ (Biofilm) ยังคงยึดเกาะบนผิวฟันและขอบเหงือก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของฟันผุและเหงือกอักเสบ
สิ่งที่ควรทำ:
- วางขนแปรงทำมุม 45° กับขอบเหงือก
- ส่ายเบา ๆ วงสั้น ๆ และปัดขึ้น–ลง
- ใช้แรงกดระดับเบา เพื่อไม่ให้ทำร้ายเคลือบฟัน
- แปรงอย่างน้อย 2 นาที ครอบคลุมทุกซี่


2) ไม่ใช้ไหมขัดฟัน (Floss) ซอกฟันเป็นพื้นที่ที่แปรงเข้าไม่ถึง ทำให้เกิด Retention ของคราบอาหารและแบคทีเรีย ซึ่งเป็นต้นเหตุของฟันผุถึงประมาณ 80% ในผู้ใหญ่
สิ่งที่ควรทำ:
- ใช้ไหมขัดฟันทุกครั้งก่อนแปรงฟัน
- โอบไหมรอบฟันเป็นรูปตัว “C”
- เลื่อนขึ้นลงเบา ๆ ให้ไหมสัมผัสผิวฟันทั้งสองด้าน
- ไม่ควรกระชากไหม เพราะอาจทำร้ายเหงือก


3) กินของหวานบ่อยเกินไป ทุกครั้งที่กินน้ำตาล ค่า pH ในช่องปากจะลดลงต่ำกว่า 5.5 ทำให้เคลือบฟันเริ่ม “ละลาย” (Demineralization) หากเกิดบ่อยครั้งจะสะสมจนเกิดรอยผุ
สิ่งที่ควรทำ:
- จำกัดจำนวนครั้งของการกินหวานระหว่างวัน
- หากต้องการทาน ควรทานพร้อมมื้ออาหารแทนการทานจุบจิบ
- ดื่มน้ำเปล่าตามทันทีเพื่อลดความเป็นกรด


4) อยู่ในภาวะกรดนานเกินไป เครื่องดื่มกรดอ่อน เช่น ชา กาแฟ น้ำโซดา น้ำผลไม้เปรี้ยว ทำให้ Enamel (เคลือบฟัน) อยู่ในสภาวะอ่อนตัวนานกว่าปกติ ทำให้ผุง่ายขึ้นเมื่อมีแบคทีเรียสะสมหรือมีแรงเสียดสี
สิ่งที่ควรทำ:
- ใช้หลอดช่วยลดการสัมผัสกรดกับฟัน
- ดื่มน้ำเปล่าตามเพื่อปรับ pH
- หลีกเลี่ยงการแปรงฟันทันทีหลังดื่ม ควรรอ 20–30 นาที


5) น้ำลายน้อย / ภาวะปากแห้ง เนื่องจากน้ำลายมีหน้าที่ Buffer กรด และช่วย Remineralization ผิวฟัน เมื่อร่างกายมีน้ำลายน้อยจากการออกกำลังกาย การนอนกรน ดื่มแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่ จะทำให้ฟันอยู่ในสภาพเสี่ยงต่อการผุ
สิ่งที่ควรทำ:
- จิบน้ำเปล่าระหว่างวันสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์หรือบุหรี่


6) ใช้ยาสีฟันฟลูออไรด์ต่ำกว่า 1,000 ppm ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ช่วยสร้าง Fluorapatite ซึ่งแข็งแรงต่อกรดมากกว่าเคลือบฟันปกติ หากปริมาณต่ำเกินไป การยับยั้งการทำลายเคลือบฟันอาจไม่เพียงพอ
สิ่งที่ควรทำ:
- ใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ 1,500 ppm (มากสุดตามกำหนด)
- ในผู้ใหญ่ ควรใช้ปริมาณยาสีฟันเท่าเมล็ดถั่วหรือเต็มแปรง เพื่อให้ได้รับฟลูออไรด์ที่เพียงพอ


7) บ้วนปากด้วยน้ำมากเกินไปหลังแปรงฟัน การใช้น้ำปริมาณมากบ้วนหลังแปรงฟัน จะทำให้ฟลูออไรด์ที่อยู่ในยาสีฟันถูกชะล้างออก ลดการยึดเกาะของฟลูออไรด์บนผิวฟันลงอย่างชัดเจน
สิ่งที่ควรทำ:
- บ้วนปากเพียงเล็กน้อย หรือไม่บ้วนเลย สำหรับยาสีฟันที่เป็นสูตรสำหรับการแปรงโดยเฉพาะ (ไม่มี SLS และ Food Grade) เพื่อปล่อยให้ฟลูออไรด์เคลือบผิวฟันให้นานที่สุดหลังการแปรง

8) ผิวฟันบางหรือสึกกร่อน เป็นผลมาจากภาวะกรดกัดเซาะ (Erosion), การแปรงแรง, การกัดฟัน หรือกรดไหลย้อน ทำให้ Enamel บางและสูญเสียแร่ธาตุอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผุได้ง่ายขึ้นแม้ทำความสะอาดดีแล้ว
สิ่งที่ควรทำ:
- หลีกเลี่ยงการแปรงฟันแรง
- ใช้แปรงขนนุ่มมาก (Ultra-soft)
- ลดพฤติกรรมที่ก่อกรด เช่น น้ำอัดลม, น้ำเปรี้ยว
- ตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำ

 

จึงเป็นเหตุผลที่ต้องดูแลช่องปากแบบ Proactive Oral Health คือ “ดูแลปกป้องก่อน เพื่อหยุดปัญหาตั้งแต่ต้นเหตุ” โดยการ
1. เสริมความแข็งแรงของเคลือบฟันทุกวัน
2. ปกป้องผิวฟันจากกรด
3. ลดการสะสมของคราบที่เป็นต้นตอของแบคทีเรีย\
4. ใช้ยาสีฟันที่ช่วยเพิ่มการเกาะตัวของฟลูออไรด์
และบ้วนน้ำน้อยที่สุดหลังแปรง เพื่อคงสารปกป้องไว้บนผิวฟัน ทั้งหมดนี้จะช่วยให้ฟันแข็งแรงขึ้นจริง ลดฟันผุซ้ำซากได้ในระยะยาว

Dentiste’ Max – No.1 Anticavity Toothpaste ออกแบบเพื่อตอบโจทย์การดูแลสุขภาพช่องปากแบบ Proactive โดยเฉพาะ ช่วยลดโอกาสฟันผุซ้ำซากจากต้นเหตุ ด้วยนวัตกรรมเคลือบฟันและแปรงฟันโดยไม่บ้วนน้ำ

Back to blog